ไขข้อข้อใจทำไม PRP แต่ละที่ถึงไม่เหมือนกัน

ไขข้อข้อใจทำไม PRP แต่ละที่ถึงไม่เหมือนกัน

ไขข้อข้อใจทำไม PRP แต่ละที่ถึงไม่เหมือนกัน

อย่างที่เราทราบกันดีว่า PRP Platelet rich plasma นั้น มีประโยชน์ในทางการแพทย์อย่างมาก เช่น นิยมใช้รักษารอยดำจากฝ้า กระ กระตุ้นคอลลาเจน ฉีดข้อเข่าลดอาการบาดเจ็บ ฉีดกระตุ้นรากผม รวมถึงฉีดที่แผลของผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากเราหวังผลจาก โกรทแฟคเตอร์ Growth factor หรือ (บางท่านจะเรียกว่าสเตมเซลล์ stemcell ซึ่งจริง ๆแล้วเป็นการเรียกที่ผิด) ตัวสารเหล่านี้จะช่วยทำให้แผลสมานได้เร็ว กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และ ช่วยลดเม็ดสีได้ด้วย อ่านเรื่อง งานวิจัยPRP

แต่ทำไมถึงมีบางคนบอกว่า PRP ทำไปแล้วไม่เห็นผลเลย วันนี้เราจะมาไขข้อข้อใจกันนะครับ

1. ความแตกต่างของเครื่องปั่น PRP

ตัวเครื่องปั่นเองก็มีความสำคัญเนื่องจากเครื่องปั่นแต่ละชนิดจะมีขนาดต่างกัน ใช้เทคโนโลยีต่างกัน ซึ่งเครื่องปั่นมักมีแบบ swing กับ fixed angle rotor ที่นิยมใช้กัน แพทย์ควรทราบถึงรัศมีของเครื่องปั่นและ การตั้งค่าเครื่องในการปั่นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อ

2.การเลือก Tube ใส่เลือด

การเลือก Tube หรือหลอดใส่เลือด ก็มีควาสำคัญ เนื่องจากผลของ PRP ที่สามารถใช้ในการรักษาลดเม็ดสี ฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือ ใช้ในการกระตุ้นรากผมได้นั้นควรได้เกล็ดเลือดจากการปั่น อย่างน้อย 3 เท่าของเกล็ดเลือดปกติหรือคิดเป็นประมาณ 1,000,000plt/μL

แต่ในกรณีที่ต้องการรผลในการรักษากระดูก หรือรักษาแผลบริเวณเนื้อเยื่อ ต้องใช้เกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นถึง 5 เท่าของเกล็ดเลือดปกติเลยทีเดียว

prptubes

3. การปฏิบัติตนของคนไข้ก่อนและหลังการรักษา

การปฏิบัติตนก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน เช่น ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังทำ PRP เนื่องจาก แอลกอฮอล์มีฤทธิ์ไปยับยั้งการกระตุ้นเกล็ดเลือด มีงานวิจัยว่าแอลกอฮอล์แค่ 1.15 mg/dL ก็มีผลต่อการรักษาแล้ว แนะนำให้งดแอลกอฮอล์ก่อนและหลังการรักษาอย่างน้อย 2 วัน

4. PRP ขุ่น

PRP สีขุ่นกว่าปกติ หมายถึงการที่มีไขมันอยู่ในเส้นเลือดปริมาณมาก หรือเรียกว่า Lipemia ซึ่งมักเจอในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยที่มีค่า Triglyceride สูงๆ หรือในคนที่ทานอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันมาก ๆก่อนการเจาะเลือด ซึ่งการที่สี PRP ขุ่นนั้นส่งผลให้การดูดซึม PRP นั้นไม่ดีเท่าควร และยังมีฤทธิ์ไปยับยั้งการกระตุ้นเกล็ดเลือดอีกด้วยครับ หากปั่นเลือดออกมาพบมา PRP มีสีขุ่น ไม่แนะนำให้นำมาใช้ฉีด

นอกจากนั้นแล้วความรู้ความเข้าใจของแพทย์ผู้ทำการรักษาเป็นสิ่งสำคัญ แพทย์ต้องมีความชำนาญในเรื่องของการใช้เกล็ดเลือดรวมถึงสามารถแนะนำการปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องและหมาะสมจึงจะเกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการรักษาครับ หมอได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยสำหรับการฉีด PRP ไว้ที่นี่ครับ
content klip-0q1