-
ปลูกผมแบบ DHI ดีกว่า FUE จริงหรือไม่?
เทคนิค DHI (Direct Hair Implantation) เป็นวิธีการปลูกผมที่ใช้เครื่องมือพิเศษช่วยฝังรากผมโดยตรง จุดเด่นคือความสะดวกรวดเร็วในการทำงานและลดขั้นตอนบางส่วน เช่น การเจาะรูล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดของการปลูกผมไม่ใช่เครื่องมือที่ใช้ แต่คือ “ความชำนาญของแพทย์” ในการจัดเรียงแนวผมให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ทั้งการปลูกผมแบบ FUT, FUE หรือ DHI หากทำโดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก็สามารถได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพไม่ต่างกัน
อ่านเรื่องที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับปลูกผม
-
ปลูกผม DHI แพงกว่า FUE หรือไม่
เนื่องจากเทคนิค DHI ใช้อุปกรณ์พิเศษอย่าง “Implanter Pen” ในการใส่รากผมโดยตรง ราคาจึงมักสูงกว่าเทคนิค FUE ที่ใช้ forceps หรือคีมปลูกผมทั่วไป อย่างไรก็ตาม ค่ารักษาไม่ได้สะท้อนผลลัพธ์โดยตรง เพราะผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์
กราฟผม (Hair Graft) หมายถึงกลุ่มรากผมที่ถูกแยกออกมาเพื่อใช้ในการปลูกผม โดยกราฟ 1 กอ อาจประกอบด้วยเส้นผมตั้งแต่ 1-4 เส้น การปลูกผมเพื่อให้ผลลัพธ์ดูมีความเนียนมากที่สุด มักใช้เทคนิค micrografting ที่แบ่งกราฟให้เหลือ 1-2 เส้นสำหรับแนวไรผมหรือขอบหน้าผาก และใช้กราฟที่มีเส้นผม 3-4 เส้น ปลูกไว้ข้างในเพื่อเพิ่มความหนาแน่นของผมที่ปลูก
-
จำนวนกราฟที่ใช้ ขึ้นอยู่กับอะไร?
จำนวนกราฟที่ใช้ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องการปลูกผม โดยทั่วไป พื้นที่ 1 ตารางเซนติเมตรสามารถปลูกได้ประมาณ 50 กราฟ เพื่อให้ได้ความหนาแน่นที่เหมาะสมและดูใกล้เคียงกับเส้นผมเดิม
ในปัจจุบันมีหลายคลินิกและโรงพยาบาลที่ให้บริการปลูกผม ผู้ที่สนใจควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคที่ใช้ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ รวมถึงผลลัพธ์ของเคสที่ผ่านมาอย่างรอบคอบ เพราะการปลูกผมเป็นการผ่าตัดที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความแม่นยำ ปลูกผมที่ Cosmoprime clinic
การปลูกผมราคาแตกต่างกันตามแต่สถานที่ การประเมินกราฟหรือรากผม และ งบประมาณทางการตลาดของแต่ละคลินิกหรือ โรงพยาบาล โดยเฉลี่ยเทคนิค FUE ราคา 40,000-200,000 บาท
-
ผมที่ปลูกจะร่วงอีกหรือไม่
โดยทั่วไป ผมที่ปลูกจะไม่ร่วงจากฮอร์โมนเพศชาย (Androgen) เพราะนำรากผมจากบริเวณท้ายทอยที่ไม่มีตัวรับฮอร์โมนนี้มาปลูก จึงช่วยให้ผมที่ปลูกมีโอกาสอยู่ได้ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การดูแลหลังผ่าตัดก็มีผลต่อความคงอยู่ของเส้นผมเช่นกัน
-
หลังปลูกต้องกระตุ้นผมด้วยเกล็ดเลือดหรือไม่
ปกติแล้วเมื่อปลูกผมไป เส้นผมที่ปลูกใหม่สามารถขึ้นเองได้ด้วยตัวเอง แต่เพื่อให้ผมที่ปลูกใหม่ขึ้นอย่างแข็งแรง การทำกระตุ้นผลด้วยเกล็ดเลือด เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการกระตุ้นเส้นผม
-
ก่อนปลูกผมต้องตรวจเลือดหรือไม่
ก่อนเข้ารับการปลูกผม แพทย์จะมีการตรวจเลือดเพื่อคัดกรองโรคติดต่อ เช่น HIV, ไวรัสตับอักเสบ B และ C และซิฟิลิส เพื่อความปลอดภัยทั้งของผู้รับบริการและบุคลากรทางการแพทย์
-
เป็นโรค HIV สามารถปลูกผมได้หรือไม่
ภาวะผมร่วงสามารถพบได้ปกติในผู้ป่วนโรค HIV ซึ่งปัจจุบันทางการแพทย์สามารถให้การรักษาได้อย่างดี ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเทียบเท่าคนปกติ แต่เนื่องจากตัวโรคทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายผู้ป่วยบกพร่อง หลังการผ่าตัดจึงมีโอกาสติดเชื้อได้มากกว่าคนปกติ รวมถึงอาการอักเสบนานกว่าคนปกติส่งผลให้การปลูกผมมีโอกาสที่จะไม่สำเร็จค่อนข้างสูง ทั้งนี้หากท่านมีความต้องการที่จะปลูกผม และ สามารถยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ แนะนำท่านปรึกษาแพทย์ เพื่อเตรียมอุปกรณ์ชนิดพิเศษก่อนทำการปลูกผม
-
ก่อนปลูกผมต้องหยุดใช้ยา Minoxidil และ Finasteride หรือไม่
ควรหยุดยาก่อนการผ่าตัด 7 วันและสามารถใช้ minoxidil หลังการผ่าตัด 14 วันในบริเวณที่ไม่ได้รับการผ่าตัด
-
สามารถใช้ผมคนอื่นมาปลูกได้หรือไม่
การปลูกผมเหมือนกับการปลูกภ่ายอวัยวะ (organ transplant) การใช้ผมผู้อื่นมาปลูกอาจจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี เช่น การติดเชื้อ การไม่รับกราฟ donor rejection