ปลูกผม cosmoprime

ศีรษะล้าน ผมบาง ผมร่วง กับการปลูกผม

ปัญหาผมบางและผมน้อยเป็นภาวะที่พบได้บ่อยทั้งในผู้ชายและผู้หญิง และสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่วัยรุ่น อาการเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ บุคลิกภาพ และภาพลักษณ์โดยรวม จึงไม่ควรมองข้าม

การรักษาอาการดังกล่าวมีหลายวิธี ได้แก่ การรักษาด้วยเกล็ดเลือด การฉายแสง (low level laser therapy) การทานยา การใช้สเปรย์ รวมถึง การผ่าตัดปลูกผม จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นอกจากรูปร่างหน้าตา และ บุคลิกภาพที่ดีแล้ว “ผม” ยังเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งในการแสดงความเป็นตัวตน เป็นการสร้างแบรนด์ของคนๆนั้น สร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจ ทรงผมสามารถทำให้เกิดความประทับใจเริ่มต้นได้

สารบัญปลูกผม

ตามนิยามของสมาคมปลูกผมนานาชาติ ISHRS นั้นมี 2 วิธี

ปลูกผม แบบ FUT

(Follicular Unit Transplantation)

เป็นการผ่าตัดนำเอาชิ้นหนังศีรษะจากบริเวณด้านหลังศีรษะ หรือ บริเวณท้ายทอย ซึ่งเป็นบริเวณที่มีรากผมที่แข็งแรงมาปลูกในบริเวณที่มีปัญหา

  • ข้อดี คือจะได้รากผมที่มีสุขภาพดีและไม่สูญเสียความหนาแน่นบริเวณ Donor area 
  • ข้อจำกัด คืออาจเกิดแผลเป็นลักษณะเป็นเส้นบาง ๆ คล้ายเส้นด้าย ซึ่งความยาวของแผลจะขึ้นอยู่กับขนาดของชิ้นเนื้อที่นำออก อย่างไรก็ตาม เทคนิคนี้ยังคงเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และเป็นที่นิยมใช้ในคลินิกปลูกผมชั้นนำในปัจจุบัน

ปลูกผม แบบ FUE

(Follicular Unit Extraction)

เป็นเทคนิคการปลูกผมที่ต้องไม่ต้องทำการผ่าตัดนำชิ้นเนื้อขนาดใหญ่ออกมา การผ่าตัดจะเป็นการเจาะย้ายรากผมจากบริเวณด้านหลังมาปลูกในบริเวณที่มีปัญหาโดยใช้เครื่องมือลักษณะคล้ายเข็มปลายตัดขนาดเล็กเจาะเก็บรากผม

  • ข้อดี ของเทคนิคนี้คือไม่เกิดแผลเป็นแบบเส้นยาว แผลจะมีลักษณะเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ คล้ายรอยเข็ม จึงมองเห็นได้น้อยและฟื้นตัวได้เร็ว
  • ข้อจำกัด คือ หากต้องการปลูกผมในปริมาณมาก อาจทำให้ความหนาแน่นของเส้นผมบริเวณผู้บริจาค (Donor Area) ลดลงได้

เทคนิคนี้ถือเป็นการผ่าตัดที่ได้รับการยอมรับตามมาตรฐานสากล และเป็นที่นิยมในคลินิกด้านความงามและการฟื้นฟูเส้นผมในปัจจุบัน

fb
instagram
tiktok
youtube

การปลูกผมแบบเทคนิค DHI

(Direct Hair Implantation) 

ก่อนอื่นต้องทราบก่อนเลยว่าการปลูกผมด้วยเทคนิค DHI เป็นเทคนิคการปลูกผมที่พัฒนามาจาก FUE โดยใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า Implanter Pen เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดขั้นตอนในการปลูกผม อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการปลูกผมขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์เป็นหลัก

fut

ปลูกผมแบบ FUE และ DHI แตกต่างกันอย่างไร?

การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction) และ DHI (Direct Hair Implantation) เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยทั้งสองวิธีมีพื้นฐานที่คล้ายกัน คือการนำรากผมออกจากบริเวณด้านหลังศีรษะ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีรากผมแข็งแรง แล้วนำมาปลูกยังบริเวณที่มีปัญหา แต่มีความแตกต่างกันในขั้นตอนของการปลูก

FUE กับ DHI แบบไหนเหมาะกับคุณ?

ทั้งสองเทคนิคสามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ หากทำโดยแพทย์ การเลือกเทคนิคควรพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น สภาพหนังศีรษะ ลักษณะเส้นผม พื้นที่ที่ต้องการปลูก และความเหมาะสมของอุปกรณ์ที่ใช้ โดยไม่มีเทคนิคใดที่ “ดีกว่า” อย่างแน่นอนในทุกกรณี

คำแนะนำ: หากคุณกำลังวางแผนปลูกผม ควรเข้ารับการประเมินโดยแพทย์ เพื่อวางแผนแนวผมและเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด เพราะผลลัพธ์ที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคนิคเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์และการดูแลหลังการรักษาอย่างใกล้ชิด

ขั้นตอนการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE หรือการใช้อุปกรณ์ DHI

ขั้นตอนที่ 1 หลังจากทำการตรวจร่างกายและเตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะทำการออกแบบแนวไรผม โดยคำนึงถึงโครงสร้างใบหน้า เพศ อายุ และความสมดุลเป็นหลัก หลังจากนั้นทำการประเมินจำนวนรากผม (กราฟต์) ที่ต้องใช้ บริเวณช่วงท้ายทอยที่จะนำรากผมออกมาจะได้รับการโกนเพื่อง่ายต่อการเจาะย้ายเซลล์รากผม

ปลูกผม
ปลูกผม
รีวิวปลูกผม

ขั้นตอนที่ 2 หลังจากเข้าห้องผ่าตัด ในช่วงแรกแพทย์จะทำการฉีดยาชาในส่วนบริเวณที่จะทำการนำรากผมออกมา โดยจะใช้เครื่องมือชนิดเจาะรากผมพิเศษที่มีความกว้างเพียง 0.6 ถึง 1 mm ด้วยขนาดที่เล็กเป็นพิเศษนี้ แผลที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะคล้ายรูเข็ม ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

ปลูกผม

ขั้นตอนที่ 3 หลังจากที่ได้เจาะย้ายรากผม ออกมาแล้ว แพทย์นำกราฟผมที่ได้มาส่งกล้องจุลทรรศน์ เพื่อทำการคัดแยกรากผมสุขภาพดี ในบางรายจะทำการตัดแต่งรากผมด้วยเทคนิค micrografting เพื่อให้ได้รากผมที่เรียงตัวสวยงามมากที่สุด

ปลูกผม
ปลูกผม

ขั้นตอนที่ 4 แพทย์จะเริ่มต้นด้วยการเจาะรูขนาดเล็กในบริเวณที่ต้องการปลูกผม จากนั้นจะนำรากผมที่ผ่านการเตรียมและคัดแยกอย่างละเอียดมาปักลงในตำแหน่งที่วางแผนไว้ โดยจะจัดเรียงแนวรากผมให้สอดคล้องกับทิศทางและความหนาแน่นของผมเดิม เพื่อให้ผลลัพธ์ที่กลมกลืนกับภาพรวมของเส้นผมโดยรอบเหมือนกับไรผมในส่วนปกติของคนไข้ให้มากที่สุด

โดยขั้นตอนนี้หากลูกค้ารับบริการปลูกผมโดยใช้เครื่องมือชนิด DHI จะเป็นอุปกรณ์ชนิดพิเศษที่ช่วยในการปักผม ทำให้การปักเรียงทำได้รวดเร็วมากกว่าเทคนิค FUE ทั้งนี้ ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ไม่ว่าจะเลือกเทคนิค FUE หรือ DHI ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์และผู้ปฏิบัติการเป็นองค์ประกอบสำคัญ

แนวไรผมสำหรับ การปลูกผม

โทรหาหมอ
FB
line

ข้อปฏิบัติตัวหลังการปลูกผม

ก่อนปลูกผม

ระยะเวลาในการพักฟื้น หลังการปลูกผม

เทคนิคการปลูกแบบเจาะย้ายราก FUE และ DHI จะใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อยกว่าการปลูกผมสมัยก่อนแพทย์จะแนะนำให้ทำการพักฟื้นหลังทำการผ่าตัดประมาณ 1-3 วัน

ความรู้สึกหลัง การปลูกผม

1. ระยะเวลา 2-3 วันแรกจะมีอาการบวมจากการผ่าตัด ในบางรายมีอาการบวมบริเวณศีรษะลงมาถึงใบหน้า แนะนำให้นอนหมอนสูงเพื่อลดอาการบวม

2. เมื่อแผลแห้งจะตกสะเก็ดและอาจจะมีอาการคันได้ สะเก็ดแผลจะค่อยๆ หลุดไปเอง เมื่อผมยาวขึ้นจะดันสะเก็ดแผลให้ยาวออกมา เมื่อครบนัด 1 เดือนแพทย์จะมีการนัดติดตามอาการและทำการตัดสะเก็ดที่เหลือ ผู้ปลูกสามารถใช้น้ำมันมะกอกชะโลมหนังศีรษะแล้วล้างออกเพื่อให้ตัวสะเก็ดแลนุ่มลงและหลุดง่ายขึ้นได้ อ่านเรื่องสะเก็ดแผล

3. หลังการปลูก 2-3 เดือนผมจะร่วงจากภาวะ shock loss จะพบได้เป็นปกติ

สะเก็ดแผลหลังปลูกผม

อาการที่พบบ่อยหลังการปลูกผม

พบได้ในช่วง 1-3 วันแรกหลังการผ่าตัด โดยจะมีเลือดซึมๆออกมาทั้งบริเวณที่เจาะราก และ บริเวณที่ปลูก

สามารถพบได้น้อยมาก เนื่องจากการผ่าตัดแพทย์จะใช้เทคนิคปลอดเชื้อทั้งหมด sterile technique ตลอดขั้นตอนกระบวนการผ่าตัด ทั้งนี้หากผู้ป่วยมีการอักเสบหรือติดเชื้อ แพทย์จะทำการให้ยาฆ่าเชื้อเพื่อรับทานต่อเนื่อง

การปลูกผมแบบเจาะย้ายรากจะใช้เครื่องมือขนาดเล็กพิเศษในการเจาะ โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์จะเจาะแบบหนึ่งรากเว้นหนึ่งรากผม รอยแผลที่เกิดขึ้นจะมีขนาดเล็กมาก 

เนื่องจากขั้นตอนการผ่าตัดมีการฉีดยาชาทั่วบริเวณ รวมถึงมีการเจาะย้ายราก จึงสามารถทำให้เส้นประสาทบริเวณนั้นได้รับความเสียหายชั่วคราว โดยปกติอาการชาจะกลับมาเป็นปกติได้เอง ในช่วง 2-4 เดือนหลังการผ่าตัด

สามารถพบได้ในผู้ป่วยบางราย หากมีสิวขึ้นแนะนำให้แจ้งแพทย์ผู้รักษา โดยปกติถ้าสิวขึ้นในช่วงแรกหลังการผ่าตัด แพทย์อาจจะให้รับทานยาฆ่าเชื้อต่อเนื่อง แต่หากเป็นในช่วงหลังแพทย์จะแนะนำให้เจาะหัวสิวออก เนื่องจากอาจจะเกิดจากภาวะขนคุดจากที่ผมเส้นใหม่กำลังยาว ทั้งนี้การรักษาจะแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละท่าน ควรรักษาความสะอาดบริเวณที่ปลูกผมเป็นอย่างดี

ภาวะผมร่วงหรือ shock loss หลังการผ่าตัด พบได้ตามปกติในช่วง 2-3 เดือน หลังการผ่าตัด ซึ่งผมจะขึ้นปกติเป็นธรรมชาติในช่วงเดือนที่ 4-6 หลังการผ่าตัด จากการศึกษาพบว่าการใช้ยา minoxidil สามารถช่วยลดการเกิด shock loss ได้

บวมหลังปลูกผม
ปลูกผม

ข้อปฎิบัติตัวหลัง การปลูกผม

  1. นอนยกศีรษะสูง 45 องศา ในช่วง 2-3 วันแรก
  2. งดดื่มแอลกอฮอล์
  3. งดสูบบุหรี่
  4. งดออกกำลังกายหรือยกของหนัก
  5. สวมหมวกผ้าก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง
  6. งดสวมหมวกกดทับบริเวณแผลผ่าตัด
  7. อย่าให้สะเก็ดแผลโดนน้ำ
  8. ทำความสะอาดดูแลแผลหลังผ่าตัด
  9. รับประทานยา หรือ พ่นสเปรย์
  10. งดแกะเกาสะเก็ดแผล
สะเก็ดแผลหลังปลูกผม

คำถามที่พบบ่อย

  • ปลูกผมแบบ DHI ดีกว่า FUE จริงหรือไม่?

เทคนิค DHI (Direct Hair Implantation) เป็นวิธีการปลูกผมที่ใช้เครื่องมือพิเศษช่วยฝังรากผมโดยตรง จุดเด่นคือความสะดวกรวดเร็วในการทำงานและลดขั้นตอนบางส่วน เช่น การเจาะรูล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดของการปลูกผมไม่ใช่เครื่องมือที่ใช้ แต่คือ “ความชำนาญของแพทย์” ในการจัดเรียงแนวผมให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ทั้งการปลูกผมแบบ FUT, FUE หรือ DHI หากทำโดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ ก็สามารถได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพไม่ต่างกัน

อ่านเรื่องที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับปลูกผม

  • ปลูกผม DHI แพงกว่า FUE หรือไม่

เนื่องจากเทคนิค DHI ใช้อุปกรณ์พิเศษอย่าง “Implanter Pen” ในการใส่รากผมโดยตรง ราคาจึงมักสูงกว่าเทคนิค FUE ที่ใช้ forceps หรือคีมปลูกผมทั่วไป อย่างไรก็ตาม ค่ารักษาไม่ได้สะท้อนผลลัพธ์โดยตรง เพราะผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์

  • กราฟผมคืออะไร

กราฟผม (Hair Graft) หมายถึงกลุ่มรากผมที่ถูกแยกออกมาเพื่อใช้ในการปลูกผม โดยกราฟ 1 กอ อาจประกอบด้วยเส้นผมตั้งแต่ 1-4 เส้น การปลูกผมเพื่อให้ผลลัพธ์ดูมีความเนียนมากที่สุด มักใช้เทคนิค micrografting ที่แบ่งกราฟให้เหลือ 1-2 เส้นสำหรับแนวไรผมหรือขอบหน้าผาก และใช้กราฟที่มีเส้นผม 3-4 เส้น ปลูกไว้ข้างในเพื่อเพิ่มความหนาแน่นของผมที่ปลูก

  • จำนวนกราฟที่ใช้ ขึ้นอยู่กับอะไร?

จำนวนกราฟที่ใช้ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องการปลูกผม โดยทั่วไป พื้นที่ 1 ตารางเซนติเมตรสามารถปลูกได้ประมาณ 50 กราฟ เพื่อให้ได้ความหนาแน่นที่เหมาะสมและดูใกล้เคียงกับเส้นผมเดิม

  • ปลูกผมที่ไหนดี

ในปัจจุบันมีหลายคลินิกและโรงพยาบาลที่ให้บริการปลูกผม ผู้ที่สนใจควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคที่ใช้ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ รวมถึงผลลัพธ์ของเคสที่ผ่านมาอย่างรอบคอบ เพราะการปลูกผมเป็นการผ่าตัดที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความแม่นยำ ปลูกผมที่ Cosmoprime clinic

  • ปลูกผมราคาเท่าไร

การปลูกผมราคาแตกต่างกันตามแต่สถานที่ การประเมินกราฟหรือรากผม และ งบประมาณทางการตลาดของแต่ละคลินิกหรือ โรงพยาบาล โดยเฉลี่ยเทคนิค FUE ราคา 40,000-200,000 บาท

  • ผมที่ปลูกจะร่วงอีกหรือไม่

โดยทั่วไป ผมที่ปลูกจะไม่ร่วงจากฮอร์โมนเพศชาย (Androgen) เพราะนำรากผมจากบริเวณท้ายทอยที่ไม่มีตัวรับฮอร์โมนนี้มาปลูก จึงช่วยให้ผมที่ปลูกมีโอกาสอยู่ได้ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การดูแลหลังผ่าตัดก็มีผลต่อความคงอยู่ของเส้นผมเช่นกัน

  • หลังปลูกต้องกระตุ้นผมด้วยเกล็ดเลือดหรือไม่

ปกติแล้วเมื่อปลูกผมไป เส้นผมที่ปลูกใหม่สามารถขึ้นเองได้ด้วยตัวเอง แต่เพื่อให้ผมที่ปลูกใหม่ขึ้นอย่างแข็งแรง การทำกระตุ้นผลด้วยเกล็ดเลือด  เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการกระตุ้นเส้นผม

  • ก่อนปลูกผมต้องตรวจเลือดหรือไม่

ก่อนเข้ารับการปลูกผม แพทย์จะมีการตรวจเลือดเพื่อคัดกรองโรคติดต่อ เช่น HIV, ไวรัสตับอักเสบ B และ C และซิฟิลิส เพื่อความปลอดภัยทั้งของผู้รับบริการและบุคลากรทางการแพทย์

  • เป็นโรค HIV สามารถปลูกผมได้หรือไม่

ภาวะผมร่วงสามารถพบได้ปกติในผู้ป่วนโรค HIV ซึ่งปัจจุบันทางการแพทย์สามารถให้การรักษาได้อย่างดี ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเทียบเท่าคนปกติ แต่เนื่องจากตัวโรคทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายผู้ป่วยบกพร่อง หลังการผ่าตัดจึงมีโอกาสติดเชื้อได้มากกว่าคนปกติ รวมถึงอาการอักเสบนานกว่าคนปกติส่งผลให้การปลูกผมมีโอกาสที่จะไม่สำเร็จค่อนข้างสูง ทั้งนี้หากท่านมีความต้องการที่จะปลูกผม และ สามารถยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ แนะนำท่านปรึกษาแพทย์ เพื่อเตรียมอุปกรณ์ชนิดพิเศษก่อนทำการปลูกผม

  • ก่อนปลูกผมต้องหยุดใช้ยา Minoxidil และ Finasteride หรือไม่

ควรหยุดยาก่อนการผ่าตัด 7 วันและสามารถใช้ minoxidil หลังการผ่าตัด 14 วันในบริเวณที่ไม่ได้รับการผ่าตัด

  • สามารถใช้ผมคนอื่นมาปลูกได้หรือไม่

การปลูกผมเหมือนกับการปลูกภ่ายอวัยวะ (organ transplant) การใช้ผมผู้อื่นมาปลูกอาจจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี เช่น การติดเชื้อ การไม่รับกราฟ donor rejection

VDO ปลูกผม

โทรหาหมอ
FB
line

บทความเพิ่มเติม