4 เรื่อง ควรรู้ ก่อนคิดจะ “ปลูกผม”

การปลูกผมเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมชนิดหนึ่ง ก่อนตัดสินใจปลูกผมเราจึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการปลูกผมให้เข้าใจก่อน วันนี้บทความเรามีคำแนะนำ 4 สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนคิดปลูกผมมาฝากกัน

สารบัญ

1. ไม่ใช่ทุกคนจะปลูกผมได้

การปลูกผมนั้นไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ ก่อนอื่นเราจะต้องเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ ก่อนว่าเราสามารถปลูกผมได้หรือไม่ เพราะการปลูกผมเป็นการนำเอาผมของเราเองในบริเวณอื่น เช่น ท้ายทอย หรือ สองข้างของขมับมาปลูกบริเวณที่เราต้องการ โดยแพทย์จะเป็นผู้ตรวจสอบว่าเรามีผมเพียงพอต่อการนำมาปลูกหรือไม่ นอกจากนั้นการเป็นโรคบางชนิดหรือ ใช้ยาบางอย่างทำให้ไม่เหมาะสมกับการปลูกผม เนื่องจากมีผลทำให้ตัวรากผมติดยาก หรือมีความเสี่ยงมากระหว่างการผ่าตัด

ปลูกผมคืออะไร (Hair Transplant / Hair Restoration Surgery)

ปลูกผม (Hair Restoration Surgery) คือการผ่าตัดขนาดเล็กที่ช่วยแก้ปัญหา ผมบาง ศีรษะล้าน หรือแนวผมร่น โดยการ “ย้ายรากผมจริง” จากบริเวณที่มีเส้นผมแข็งแรง เช่น ท้ายทอย หรือข้างศีรษะ มาปลูกในบริเวณที่มีผมบางหรือไม่มีผม

ใครเหมาะกับการปลูกผม

การปลูกผมไม่ได้เหมาะกับทุกคน — ดังนั้นก่อนตัดสินใจควรประเมินให้แน่ชัดว่า “สภาพหนังศีรษะและเส้นผมของคุณพร้อมหรือไม่” โดยทั่วไปแล้วผู้ที่เหมาะกับการปลูกผมมีดังนี้

1. ผู้ที่มีภาวะผมบาง หรือศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์ (Androgenetic Alopecia)

เป็นกลุ่มที่เห็นผลดีที่สุด เพราะรากผมบริเวณท้ายทอยและข้างศีรษะยังแข็งแรง และสามารถนำมาปลูกถาวรได้ ผมที่ปลูกจะไม่ร่วงตามฮอร์โมนเหมือนผมเดิม

2. ผู้ที่ผมร่วงเรื้อรัง แต่ยังมี “พื้นที่ผู้บริจาค (Donor Area)” เพียงพอ

การปลูกผมต้องอาศัยรากผมจริงจากตัวเอง ดังนั้นหากบริเวณท้ายทอยยังมีเส้นผมหนาแน่นเพียงพอ ถือว่าเหมาะสม แต่หากบางมากจนไม่เหลือรากผมที่แข็งแรง อาจต้องใช้วิธีอื่นแทน เช่น การรักษาด้วย PRP หรือ Regenera Activa

3. ผู้ที่ผมร่วงจากแผลผ่าตัด หรืออุบัติเหตุ

ในกรณีที่ผิวหนังบริเวณแผลเป็นสมานตัวดี ไม่มีการอักเสบเรื้อรัง สามารถปลูกผมทับรอยแผลได้ เช่น แผลจากการผ่าตัดสมอง หรือรอยไหม้บางชนิด

4. ผู้ที่สุขภาพทั่วไปแข็งแรง ไม่มีโรคผิวหนังอักเสบหรือโรคเรื้อรังที่มีผลต่อการงอกของเส้นผม

ผู้ที่เป็น Lupus, Alopecia Areata หรือ ติดเชื้อราบนหนังศีรษะ ควรรักษาโรคให้หายก่อนจึงจะปลูกได้ เพราะจะมีผลต่อการติดของรากผมใหม่

ใคร “ไม่เหมาะ” กับการปลูกผม

ผู้ที่มีภาวะ ผมร่วงกระจายทั่วศีรษะ (Diffuse Hair Loss)
ผู้ที่มีโรคประจำตัวรุนแรง เช่น เบาหวานควบคุมไม่ได้, ลิ่มเลือดอุดตันง่าย, หรือมีปัญหาเลือดแข็งตัวช้า
ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์เกินจริง เช่น อยากให้ผมหนาเท่าคนไม่เคยล้านเลย

2. การปลูกผมมีหลายวิธี

หลังจาที่เราตัดสินใจที่จะแก้ปัญหาด้วยการปลูกผมแล้วนั้น เราต้องทราบก่อนว่าการปลูกผมนั้นก็ยังมีหลายวิธีให้เลือก โดยแต่ละวิธีนั้นก็เหมาะกับปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้านในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป

มีทั้งปลูกผมแบบผ่าตัดหนังศีรษะแบบเส้นยาวเพื่อนำไปแปะบริเวณที่ต้องการ (FUT – Follicular Unit Transplantation) วิธีการนี้จะได้ผมปริมาณมาก แต่มีข้อเสียคือแผลเป็นขนาดค่อนข้างใหญ่ แผลเป็นยาวแต่ซ่อนในผมได้ และ ฟื้นตัวช้ากว่าแบบอื่น

ปลูกผมแบบย้ายเซลล์ผมที่ละกอเพื่อนำไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ (FUE –Follicular Unit Extraction) วิธีนี้จะทำให้เกิดแผลเป็นขนาดเล็กแทบมองไม่เห็น ฟื้นตัวเร็ว เจ็บน้อย แต่กราฟต์บางส่วนอาจสูญเสียได้หากแพทย์ผู้ปลูกผมไม่ชำนาญ

หรือปลูกผมแบบ การใช้อุปกรณ์ DHI (Direct Hair Implantation) ช่วยในการปลูก จะมีโอกาสเกิดแผลเล็ก ฟื้นตัวไว ดูเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์แน่นกว่า

การตัดสินใจว่าจะเลือกวิธีปลูกผมแบบใดจะต้องมีการปรึกษากันระหว่างแพทย์และผู้เข้ารับบริการเพราะมีขั้นตอนในการรักษาและค่าบริการที่แตกต่างกัน

กราฟต์ผมคืออะไร (Hair Graft)

“กราฟต์ผม (Hair Graft)” คือหน่วยเล็กที่สุดที่ใช้ในการปลูกผม โดย 1 กราฟจะประกอบด้วย รากผม 1–4 เส้น แล้วแต่ลักษณะของแต่ละบุคคล

:: อ่านเรื่อง การฟต์ผม

3. ปลูกผมแล้วก็ต้องกินยาควบคุม

แม้ว่าการปลูกผมเป็นวิธีช่วยให้บริเวณที่ผมร่วงมากจนผมบางหรือศีรษะล้านมีผมขึ้นมา แต่การปลูกผมไม่ได้เป็นการหยุดสาเหตุของอาการผมร่วงหรือผมบางได้ อ่านเรื่องผมบางในผู้ชายได้ที่นี่ ทำให้แม้ว่าจะปลูกผมไปแล้วก็ตาม ผมก็ยังมีโอกาสที่จะหลุดร่วงต่อไปได้ หากเป็นปัญหาผมร่วงจากกรรมพันธุ์ก็ต้องกินยาควบคุมผมร่วงต่อไป

[row_inner_3] [col_inner_3 span__sm=”12″]

4. ค่าใช้จ่ายในการปลูกผม

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งที่เป็นข้อจำกัดในการเลือกปลูกผมของคนส่วนใหญ่ก็คือค่าใช้จ่าย หากเปรียบเทียบกับการรักษาปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้านด้วยวิธีอื่น ๆ การรักษาด้วยวิธีการปลูกผมนั้นถือว่าค่อนข้างแพงกว่า ค่าใช้จ่ายของการปลูกผมสามารถสูงได้ถึงหลักหมื่น ถึงหลักหลายแสนบาทเลยทีเดียว คนส่วนใหญ่ที่เลือกปลูกผมมักเป็นคนที่มีปัญหาผมร่วงหรือผมบางรุนแรง แนะนำให้เลือกสถานที่สะอาดได้มาตรฐาน แพทย์ที่มีประสบการณ์ในการปลูก มีการติดตามผลการรักษา และเชื่อถือได้

[/col_inner_3] [/row_inner_3]

สรุป: ปลูกผมดีไหม? เหมาะกับคุณหรือเปล่า?

หัวข้อ	สิ่งที่ควรรู้
ใครปลูกได้	ต้องมีเส้นผมบริเวณท้ายทอยเพียงพอ และไม่มีโรคที่เป็นข้อห้าม
เทคนิค	มีให้เลือกทั้ง FUT, FUE และ DHI ซึ่งแตกต่างกันเรื่องแผล ฟื้นตัว และงบประมาณ
ต้องดูแลต่อ	แม้จะปลูกผมแล้ว แต่ยังต้องใช้ยาและทรีตเมนต์เพื่อควบคุมผมร่วงเดิมในระยะยาว
ค่าใช้จ่าย	มีตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสน ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟต์และเทคนิคที่ใช้
คำแนะนำ	ควรปรึกษาแพทย์ ตรวจสอบรีวิว ภาพก่อน-หลัง และเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานการติดตามผลการรักษา