ปัญหาผมร่วงและผมบางเป็นเรื่องที่พบได้ในผู้หญิงมากพอๆ กับผู้ชาย แต่เนื่องจากโครงสร้างของผมและลักษณะทางชีวภาพที่ต่างกัน การรักษา หรือ ปลูกผม ผมบาง จึงต้องมีวิธีการที่เฉพาะเจาะจง การเลือกวิธีปลูกผมที่เหมาะสมสำหรับผู้หญิงเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาผมร่วงและผมบางอย่างมีประสิทธิภาพ และ ต้องดูด้วยว่าอาการที่ผู้ทำกำลังพบเจอ มีความรุนแรงขนาดไหน มีปัจจัยอะไรร่วมด้วยหรือไม่ วันนี้พวกเรา Cosmo Clinic จะมาพาทุกท่านไปดูวิธีการปลูกผมที่เหมาะกับผู้หญิงกัน
ปลูกผมผู้หญิง การรักษาผมบาง สำหรับผู้หญิง
การ ปลูกผม ในผู้หญิงเป็นทางเลือกที่ช่วยให้ผู้หญิงกลับมามีกรอบหน้าชัด แนวผมแน่นและหนาเหมือนเดิม มั่นใจได้อีกครั้ง โดยถึงแม้ว่าโดยปกติผู้หญิงจะพบเจอกับปัญหาผมร่วงน้อยกว่าผู้ชาย แต่ก็มีหลายปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงเกิดอาการผมบาง หรือ ผมร่วงได้
ปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงผมบางมีหลายอย่าง เช่น ผมร่วงจากความเครียด การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน อายุที่มากขึ้น กรรมพันธุ์ การจัดแต่งทรงผม หรือการดูแลผมที่ไม่ถูกวิธีก็สามารถทำให้ผมร่วงได้เช่นกัน การรักษาเส้นผมในผู้หญิง จึงมีความละเอียดอ่อนมากกว่าของผู้ชาย
ปลูกผม ผู้หญิง ผู้ชาย ต่างกันยังไง
แม้ว่าการปลูกผมจะมีขั้นตอนพื้นฐานที่คล้ายกัน แต่ก็มีความแตกต่างระหว่างการปลูกผมในผู้หญิงและผู้ชายมีหลายประการ ดังนี้
- บริเวณที่เกิดปัญหาเส้นผม ผู้หญิงมักมีปัญหาหน้าผากกว้าง กรอบหน้าแนวผมเว้าสูง รูปหน้าไม่เป็นรูปไข่ ในขณะที่ผู้ชายมักมีปัญหาผมเป็นการร่นขึ้นเป็นง่ามตัว M ที่ลึกขึ้นไปจนถึงกลางศีรษะ
- การเลือกวิธีปลูกผม เนื่องจากผู้หญิงมักไว้ผมยาว การเลือกเทคนิคปลูกผม หากไม่ต้องการตัดผม ผู้หญิงมักเลือกใช้วิธีที่ไม่ต้องโกนผม เช่น Non-shaven หรือ Long Hair
- ลักษณะของเส้นผม เส้นผมของผู้หญิงมักมีความบางและเล็กกว่าผู้ชาย ทำให้การปลูกผมต้องใช้ความละเอียดและความแม่นยำที่มากขึ้น
ปลูกผม ผมบาง ในผู้หญิงเลือกวิธีไหนดี
การเลือกวิธีปลูกผมที่เหมาะสมสำหรับผู้หญิงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด วิธีการ ปลูกผมผมบาง ที่นิยมสำหรับผู้หญิง มีดังนี้
1. ปลูกผมแบบ FUE
- การปลูกผมแบบ FUE เป็นการปลูกผมที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน ซึ่งใช้เทคนิคการดึงเส้นผมจากบริเวณที่มีผมหนาด้านหลัง ไปสร้างกรอบหน้าใหม่บริเวณด้านหน้า
- ข้อดีคือ แผลขนาดเล็ก เส้นผมใหม่ที่ขึ้นจะแข็งแรง แผลด้านหลังหายเองได้รวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน
2.ปลูกผมแบบ DHI
- การปลูกผมแบบ DHI เป็นการพัฒนาเพิ่มเติมจาก FUE โดยใช้เครื่องมือเป็นปากกาปักผม (implanter pen) ที่ช่วยให้การปลูกผมมีความแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น
- DHI ช่วยลดการบาดเจ็บของเส้นผม ทำให้ผมที่ปลูกมีอัตราการอยู่รอดมากขึ้น และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
3.ปลูกผม Non-Shaven
- การ ปลูกผม แบบ Non-Shaven เป็นวิธีที่ไม่ต้องโกนผมบริเวณที่ปลูก เหมาะสำหรับผู้หญิงเพราะว่าไม่ต้องโกนผมบริเวณด้านหลัง ทำให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติอย่างรวดเร็ว
- วิธีนี้ใช้เวลาค่อนข้างมาก และมีข้อจำกัดเรื่องจำนวนกราฟ เหมาะกับผู้ที่มีพื้นที่ที่มีปัญหาไม่ใหญ่มาก
4.การกระตุ้นรากผมแบบ PRP
- การกระตุ้นรากผมแบบ PRP เป็นวิธีที่ใช้เกล็ดเลือดตัวเอง ไม่ใช้สารยาหรือเคมี ทำให้สบายใจ ไร้ข้อกังวล ไม่มีแผลหรือแผลเป็น
- PRP ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมเดิมให้ใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น
5.การกระตุ้นรากผมแบบใช้เซลล์รากผม Recell
- การกระตุ้นรากผมแบบใช้เซลล์รากผม Recell เป็นการใช้เซลล์ต้นกำเนิดเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นโดย แพทย์จะนำเนื้อเยื่อจากบริเวณที่มีรากผมที่แข็งแรงที่สุดบริเวณท้ายทอย ไปสกัดเป็นสเต็มเซลล์ และนำฉีดไปยังจุดที่มีปัญหาผมบาง
- วิธีนี้ช่วยเพิ่มความหนาและความแข็งแรงของเส้นผม ช่วยกระตุ้นให้ผมที่งอกออกมามีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
ผู้หญิงที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ปรึกษา Cosmo Clinic
หากคุณผู้หญิงที่กำลังมีปัญหาผมร่วงหรือผมบางและกำลังมองหาวิธีการปลูกผมที่เหมาะสม สามารถปรึกษา Cosmo Clinic เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ที่ Cosmo Clinic เรามีทีม แพทย์ผู้มากประสบการณ์ในการรักษาปัญหาผมร่วง และการปลูกผม ทั้งในผู้ชาย และ ผู้หญิง ปลูกผมด้วยเทคนิคที่ทันสมัย และการบริการที่มีประสิทธิภาพ มีการติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง
Cosmo Clinic ยินดีให้คำปรึกษาและแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะส โดยแพทย์จะประเมินและแนะนำคนไข้เป็นรายๆไป มีการให้คำปรึกษาก่อน และเข้ารับบริการฟรีทุกเคส เพื่อให้คุณกลับมามีผมที่หนาและสุขภาพดีอีกครั้ง ปัญหาผมร่วงและผมบางไม่ใช่ปัญหาที่ไม่มีทางแก้ หากคุณขาดความมั่นใจที่เคยมี และ มีความกังวลและต้องการคำแนะนำ อย่ารอช้าที่จะปรึกษาพวกเรา Cosmo Clinic เพื่อรับคำปรึกษาและการบริการเหมาะสมกับคุณ