ปลูกผมไม่โกน Non-Shaven FUE ปลูกผมแบบไม่โป๊ะ

ปัญหาผมเป็นปัญหาที่หลายคนกำลังพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือหญิง การปลูกผมเป็นวิธีที่หลายคนให้ความสนใจ แต่บางคนก็อาจมีความกังวลเนื่องจากการปลูกผมส่วนใหญ่ จะต้องทำการโกนผมในขั้นตอนการทำ ซึ่งอาจทำให้หลายคนที่กำลังตัดสินใจปลูกผมรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะต้องใช้เวลาพอสมควรเลยกว่าผมที่โกนไปจะกลับมาขึ้นเป็นปกติ ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับ การปลูกผมเทคนิคใหม่ ที่ไม่ต้องโกนผม หรือ Non-Shaven FUE ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ

โดยการปลูกผมแบบไม่ต้องโกนผม เป็นวิธีที่เหมาะมากสำหรับคนที่อยากปลูกผม แต่มีความกังวลเรื่องหน้าตา การเข้าสังคมหลังการปลูก หรือไม่อยากตอบคำถามคนรอบข้างเยอะ เพราะไม่ต้องกังวลว่าจะโป๊ะ หรือมีใครรู้ว่าคุณไปปลูกผมมา บทความนี้พวกเรา Cosmo Clinic จะพาทุกท่านไปทำความรู้จัก เทคนิคปลูกผมแบบไม่ต้องโกนกันให้มากยิ่งขึ้น

ปลูกผมแบบไม่โกนผม คืออะไร ทำได้จริงไหม

การปลูกผมในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีและเทคนิคอย่างต่อเนื่อง โดยวิธีการนำกราฟผมจากบริเวณท้ายทอยด้านหลังยังคงมีอยู่ 2 วิธีหลัก คือ 1. FUT (follicular unit transplantation) หรือเรียกว่า strip surgery เป็นการตัดหนังศีรษะออกมาเป็นเส้นยาว 10-20 cm เพื่อมาแยกกราฟผมด้วยกล้องจุลทรรศน์ และวิธีที่ 2. FUE (follicular unit extraction) ที่เป็นการเจาะกราฟผมออกมาครั้งละ 1 กราฟ หรือ 1 กอ ซึ่งอาจประกอบไปด้วยเส้นผมตั้งแต่ 1-4 เส้น ที่เป็นวิธีที่นิยมที่สุดในปัจจุบัน

หนึ่งในสิ่งที่เป็นจุดด้อยของการปลูกผมแบบ FUE คือการที่มีความจำเป็นต้องตัดผมบริเวณจุดที่จะต้องเจาะเพื่อนำกราฟผมออกมาใช้ ซึ่งการตัดผมในรูปแบบนี้คือการปรับแบบโกนด้วยแบตตาเลียน ไม่รองหวี ให้เห็นโคนผมบริเวณหนังศีรษะ การตัดผมแบบนี้ ใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ เส้นผมที่ไม่ได้โดนเจาะกราฟออกไป ถึงจะกลับมายาวเพื่อบังบริเวณที่เจาะออกไปได้

ในปัจจุบันทุกวันนี้ เทคโนโลยีมีการพัฒนาไปไกล ทำให้วิธีการปลูกผมหลักอย่าง FUE มีวิธีย่อยต่างๆที่เสริมช่วยเข้ามาทำให้การปลูกผมมีผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ทั้งในเชิงคุณภาพ รวมไปถึงความสวยงามหลังจากปลูกเสร็จไม่ว่าจะหลังปลูกเสร็จทันทีหรือผ่านไปแล้วหลายปี และแก้ไขจุดด้อยของการปลูกแบบ FUE ได้ นั่นคือเทคนิค Non Shaven FUE

Non-Shaven FUE เทคนิค ปลูกผมไม่โกน

Non-Shaven FUE

Non-shaven Follicular Unit Extraction เป็นเทคนิคการปลูกผม แบบไม่ต้องโกนผมบริเวณที่เราจะเจาะกราฟออกมา ดังนั้นหลังทำ จะสามารถใช้ชีวิตแบบปกติได้ในทันที โดยไม่ต้องรอให้ผมงอกเพื่อมาปิดบริเวณที่เราเจาะกันออกไป เทคนิคนี้จะเป็นการใช้กราฟต์ผมจากบริเวณที่มีผมขึ้นหนา และ สุขภาพดี เช่น ด้านหลังศีรษะ มาแยกและปลูกในบริเวณที่ไม่มีผม ผมบางหรือร่วง ซึ่งเป็นวิธีที่ต้องใช้ความละเอียด และ ความชำนาญจากแพทย์ผู้ทำอย่างมาก เพื่อไม่ให้มีกราฟผมเสียจากขั้นตอนการย้าย

เทคนิคนี้ทำโดยการเจาะกราฟผมทั้งที่เส้นผมยังยาวอยู่ โดยแพทย์จะเจาะกราฟผมบริเวณโคนผม ซึ่งหัวเจาะกราฟนอกจากจะเจาะกราฟออกมาได้แล้ว แต่ยังสามารถตัดเส้นผมไปพร้อมกันด้วย ทำให้ได้กราฟออกมาเหมือนการปลูกแบบปกติ แต่ไม่จำเป็นต้องโกนผมทั้งพื้นที่

การปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE ยังช่วยลดความรู้สึกเครียด และ ความกังวล ของผู้ที่ต้องการปลูกผม เนื่องจาก ออกไปใช้ชีวิตได้ทันที ไม่โป๊ะ ไม่ต้องตอบคำถามหลายคน ที่เข้ามาถามหากภาพลักษณ์เปลี่ยนไป และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที

ข้อดีของการ ปลูกผมไม่ต้องโกน

  1. ไม่ต้องเปลี่ยนลุค หนึ่งในข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของ Non-Shaven FUE คือไม่ต้องโกนผมบริเวณที่จะเจาะกราฟ ไม่ต้องเปลี่ยนทรงผมให้คนรอบกายสงสัย
  2. ใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที หลังการปลูกผมด้วยเทคนิค Non-Shaven FUE คนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที ไม่ต้องรอผมงอกใหม่เพื่อมาปิดรอยเจาะบริเวณด้านหลัง
  3. แผลหายไว เนื่องจากการปลูกผมเป็นแบบ FUE วิธีนี้จะมีแผลขนาดเล็กมาก พักฟื้นไว หายเร็ว
  4. ไม่ต้องตอบคำถาม การที่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงทรงผมอย่างเห็นได้ชัด ภาพลักษณ์ไม่เปลี่ยน ทำให้ไม่ต้องตอบคำถามใครว่าไปทำอะไรมา หรือทำไมอยู่ๆผมถึงสั้นลงกะทันหัน
ปลูกผมยาว
ปลูกผมยาว

ข้อเสียของการปลูกผมแบบ Non shaven

หนึ่งในข้อเสียของการปลูกผมแบบนี้คือจะได้ปริมาณกราฟจำนวนไม่มากเท่ากับการเจาะกราฟร่วมกับตัดผมทั่วไป เนื่องจากเป็นการปลูกผมโดยที่ไม่เห็นพื้นที่หนังศีรษะโดยรวมทั้งหมด ทำให้แพทย์ต้องเจาะกระจายกว่าปกติเพื่อป้องกันการเจาะถี่มากเกินไป หากมีการเจาะที่ถี่ อาจทำให้เกิดภาวะ overharvesting หรือมีการแหว่งของเส้นผม จึงทำให้ได้กราฟผมไม่เยอะเท่าปลูกแบบปกติ

อีกหนึ่งข้อเสียคือการปลูกผมแบบนี้ใช้เวลานานกว่าการปลูกผมแบบปกติ เนื่องจากเป็นการเจาะแบบผมยาว ทำให้เสียเวลาในการจัดทิศทางเส้นผมให้เหมาะสม ในระหว่างกระบวนการเจาะกราฟ

และสุดท้ายคือการปลูกผมแบบนี้ จะยังไม่เห็นทิศทางของเส้นผม ซึ่งเป็นข้อด้อยของการปลูกผมทั่วไปเนื่องจากผมที่ได้จะมีเส้นผมที่สั้น ต้องรอให้ผมขึ้นจริงก่อนจึงจะเห็นทิศทางของเส้นผม

เพื่อให้ลดข้อด้อยในเรื่องของการดูทิศทางเส้นผม เทคโนโลยีในปัจจุบันได้ถูกพัฒนาไปไกลมากขึ้น เพื่อลดข้อเสียของการปลูกผมแบบแบบเดิมๆ ที่ไม่เห็นทิศทางของเส้นผม นั่นคือเทคนิค Long Hair FUE

Long Hair FUE คืออะไร

เทคนิค Long Hair FUE คือการปลูกผมชนิดย่อยของการปลูกแบบ Non Shaven FUE ซึ่งเป็นการเจาะทีละกราฟ โดยไม่ต้องโกนเส้นผมผมด้านหลัง แต่จะเป็นเครื่องมือและหัวเจาะชนิดที่พิเศษ กึ่งคมกึ่งทู่ ทำให้เวลาเจาะกราฟ สามารถเจาะรากผมออกมาได้โดยไม่ทำให้เส้นผมขาด กล่าวคือเป็นกราฟที่มีรากผมเชื่อมร่วมกับผมที่ยาวติดออกมาด้วยกัน ทำให้เวลาปลูกที่ด้านหน้า เมื่อรากผมฝังอยู่ใต้ผิวหนังแล้ว เราจะสามารถเห็นทิศทางและแนวเส้นผมอย่างครบถ้วนทุกเส้นที่ได้ปลูกไป

ข้อดีของการปลูกแบบ Long Hair

เห็นทิศทางของเส้นผมทันทีจากการปลูก เนื่องจากว่ากราฟผมมีเส้นผมติดออกด้วยกัน เวลาปลูกผมด้านหน้าก็จะเห็นแนวผมและทิศทางของเส้นผมอย่างชัดเจน

Long Hair เหมาะกับใคร

เหมาะกับคนที่ต้องการให้เส้นผมทั้งบริเวณด้านหลังและด้านหน้า ดูมีความเนียน ไม่เหมือนเพิ่งปลูกผมมา หรือต้องมีกิจกรรมหรืองานที่จำเป็นต้องพบปะผู้คนและเข้าสังคม ต้องใช้หน้าใช้ตาในช่วงแรกหลังปลูกเสร็จทันที

ปลูกผมไม่ต้องโกน แตกต่างกับแบบต้องโกนอย่างไร

ปลูกผมแบบต้องโกน (Shaven FUE) เป็นวิธีที่นิยมใช้ในการปลูกผม โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการปลูกผมในบริเวณกว้างๆ หรือ คนที่มีพื้นที่ที่มีปัญหาจำนวนมาก โดยกระบวนการนี้ต้องมีการโกนผมบริเวณที่มีการดึงกราฟต์ออกมาและบริเวณที่จะปลูกใหม่ ทำให้ไม่เหมาะกับผู้ที่มีความกังวลเรื่องการตัดผม หรือ ต้องทำงานที่ใช้ภาพลักษณ์เสมอ

ในทางกลับกัน Non-Shaven FUE เป็นการปลูกผมแบบไม่ต้องโกนหัว ไว้ผมทรงเดิม ไม่ต้องปรับทรงมาก ใช้ชีวิตปกติหลังทำได้ทันที ไม่ต้องรอให้ผมงอกใหม่กลับมาปิดจุดที่เจาะไปเหมือนเดิม เพียงแต่จะได้จำนวนกราฟที่ไม่เยอะเท่าไรนัก

ปลูกผมยาว
ปลูกผมยาว

Non-Shaven FUE ใช้เวลานานไหม ?

การปลูกผมแบบไม่โกนผม หรือ Non-Shaven FUE จะมีกระบวนการและความละเอียดมากกว่าแบบที่ต้องโกนผม Shaven FUE เป็นผลทำให้แพทย์ผู้ทำหัตถการต้องใช้เวลามากขึ้นกว่าการปลูกผมแบบปกติทั่วไป ซึ่งเวลาที่ต้องใช้ก็จะแตกต่างไปในแต่ละคน โดยปกติจะอยู่ในช่วงเวลาตั้งแต่ 10-12 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟต์ผมที่ต้องการปลูก แต่แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้จะคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปโดยเฉพาะกับคนที่เป็นห่วงภาพลักษณ์และทรงผม

ปลูกผมไม่โกน เหมาะกับใคร ?

การปลูกผมแบบไม่ต้องโกนผม เหมาะมากกับผู้ที่ไม่ต้องการให้ใครสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง ว่าไปทำอะไรกับผมมา นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมบางเฉพาะจุด และต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องรอให้ผมงอกใหม่

ผู้ที่ต้องการปลูกผมแต่มีเวลาจำกัดในการพักฟื้น หรือ ผู้ที่ต้องใช้ภาพลักษณ์ในการทำงาน และต้องการใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังทำ เทคนิค Non-Shaven FUE จะช่วยทำให้สามารถกลับไปทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การออกไปเข้าสังคม หรือ การท่องเที่ยว ถ่ายรูปได้ทันที โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผมที่สั้นด้านหลังมากนัก

บทสรุป

การปลูกผมแบบ Non-Shaven FUE เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าตนเองได้ทำการปลูกผมมา แก้ปัญหาผมบางหรือผมร่วงอย่างไม่โป๊ะ หากต้องการประเมินว่าสามารถทำ Non-Shaven FUE ได้หรือไม่ สามารถติดต่อปรึกษา หรือ ประเมินสภาพผมได้ที่คอสโมคลินิกทุกสาขา

เขียนบทความโดย

นายแพทย์ ปฐมภพ คุณกิตติ (หมอดิว)

Pathompob Khunkitti, MD.

อ่านบทความเพิ่มเติม