สาเหตุของอาการบวมหลังการปลูกผม
หลังจากการผ่าตัดปลูกผมย้ายราก บางท่านอาจพบกับภาวะผิวหนังบวมบริเวณจุดต่างๆ เช่น หนังศีรษะ หน้าผาก ท้ายทอย หรือบริเวณรอบดวงตา ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ปกติทั่วไปหลังการปลูกผม ไม่ได้เป็นอันตราย และไม่ได้ผิดปกติอะไร
ในบทความนี้ เราจะมาคุยกันถึงสาเหตุของอาการบวม เพื่อที่เราจะได้เตรียมตัวอย่างถูกวิธีและดูแลรักษาอย่างตรงจุดกันครับ
การฉีดยาชา
หนึ่งในสาเหตุของภาวะบวมหลังการผ่าตัดปลูกผมถาวร คือผลของยาชาที่ฉีดเพื่อระงับความรู้สึกเจ็บที่แพทย์ฉีดก่อนทำการปลูกผม เนื่องจากการปลูกผมเป็นการผ่าตัดที่ครอบคลุมพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้าง และใช้ระยะเวลานาน การฉีดเพื่อระงับความรู้สึกทั่วไปจึงมีความจำเป็นต้องใช้ยาชาที่ค่อนข้างเยอะ เพื่อให้อยู่ได้นานพอและให้ได้ผลที่ชาทั่วทั้งบริเวณ และเมื่อฉีดยาชาจำนวนมาก ก็จะทำให้ผิวหนังบวมได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากแพทย์ที่ทำการปลูก ใช้วิธีการฉีดยาชาเทคนิคบล็อกเส้นประสาท จะทำให้ปริมาณยาชาที่ใช้ลดลง ซึ่งจะส่งผลให้การบวมลดลงด้วยเช่นกัน
การฉีดเกล็ดเลือด หรือ PRP
ในการผ่าตัดปลูกผม หลังจากที่แพทย์ทำการฉีดยาชาเสร็จ แพทย์จะทำการฉีด PRP ร่วมด้วยในบริเวณจุดที่จะทำการปลูกผม และเนื่องจากปริมาณ PRP ในแต่ละครั้งจะอยู่ที่ประมาณ 3-5 cc จะทำให้มีปริมาณตัวเกล็ดเลือดไปขยายพื้นที่ผิวหนัง ทำให้เกิดอาการบวมขึ้นได้เล็กน้อยเช่นกัน
การอักเสบทั่วไป
เนื่องจากขั้นตอนการปลูกผม มีการใช้เข็มในการเปิดรูเพื่อวางกราฟเส้นผมเป็นจำนวนมากหลายพันช่อง ทำให้ผิวหนังชั้นนอกได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยตามกลไกปกติของร่างกาย และเมื่อมีการบาดเจ็บของเซลล์ ร่างกายเราจึงหลั่งสารต่างๆ (chemotaxis) เพื่อมาซ่อมแซมบริเวณที่เราเจาะรู การหลั่งสารเหล่านี้นอกจากจะช่วยซ่อมแซมบริเวณที่เป็นแผลแล้วแล้ว ยังทำให้เกิดอาการบวมได้เช่นกัน และทำใหการบวมไม่เท่ากันในแต่ละคนอีกด้วย
อาการบวมอยู่ได้นานเท่าไหร่
ระยะเวลาการบวมบริเวณศีรษะขึ้นอยู่กับร่างกาย การตอบสนองต่อการผ่าตัด และการดูดกลับของของเหลวแต่ละบุคคล แต่หากเป็นคนทั่วไปโดยเฉลี่ยจะบวมอยู่ที่ประมาณ 3-5 วัน และจะหายไปเกือบทั้งหมดภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 วันหลังการผ่าตัด
ในช่วงที่มีการบวม แนะนำในมีการนอนหมอนหัวสูง งดนอนราบ เพื่อเพิ่มการดูดกลับและเร่งการซึมลงของน้ำเกลือและยาที่ฉีดเข้าไปในหนังศีรษะ
สรุป
การบวมหลังการปลูกผมเป็นสิ่งที่พบได้ตามปกติ แต่หากท่านใดรู้สึกว่ามีอาการบวมมากเกิน หรือบวมนานเกิน แนะนำปรึกษาแพทย์ที่ทำการปลูกผมด้วยจะให้คำตอบได้ดีที่สุดครับ