ผิวแดง คัน เป็นหลุม หลังปลูกผม ปกติหรือไม่

ผิวแดง คัน เป็นหลุม หลังปลูกผมผ่านไป 1 เดือน ปกติหรือไม่

หลังจากการผ่าตัดปลูกผมถาวร 2-4 สัปดาห์ ก็จะเข้าสู่ช่วงผลัดผม หรือ shock loss ของเส้นผมบริเวณด้านหน้า เส้นผมของคนไข้ส่วนมากก็จะหลุดร่วงออกหมด เหลือไว้เพียงผิวหนังเปล่าเปลือย และในบางท่านอาจเห็นเป็นรอยแดง เห็นเป็นตุ่มรู และมีอาการคันที่มากขึ้น ในบทความนี้เราจะมาดูแต่ละประเด็นว่าเป็นภาวะที่ปกติหรือไม่ครับ

อ่านเรื่องภาวะ shockloss

ผิวหนังแดง ชมพู ในช่วงผลัดผม

ภาวะผิวหนังแดง อมชมพู ในช่วงผลัดผมสามารถพบได้ในภาวะปกติในบางเคส บางคนอาจกังวลว่าผิวสีแดงเป็นลักษณะของการอักเสบ แต่ไม่จำเป็นต้องกังวลเนื่องจากสาเหตุของผิวที่แดง เกิดจากในขั้นตอนการปลูกผม แพทย์จะทำการเจาะรูในบริเวณผิวหนังที่ต้องการจะปลูก เพื่อกำหนดทิศทางของเส้นผมให้เป็นไปตามธรรมชาติของเดิมของคนไข้

เมื่อผ่านไป 1 เดือน ผิวหนังที่ถูกเข็มแทงลงไปจึงเหลือเป็นรอยแดง ลักษณะเหมือนแผลที่กำลังรักษาและสมานตัวนั่นเองครับ ภาวะผิวสีแดงชมพูแบบนี้ จะดีขึ้นได้ด้วยตัวเอง และเป็นเกือบปกติภายใน 6-12 เดือนหลังการผ่าตัดปลูกผม

อ่านเรื่อง รูเจาะแผลด้านหลังศีรษะทำไมถึงมีขนาดต่างกัน

ภาวะคัน ในช่วงผลัดผม

อีกอาการที่พบได้บ่อยหลังการปลูกผมไป 2-4 สัปดาห์คืออาการคันไม่ว่าจะเป็นบริเวณด้านหน้าที่ปลูกใหม่ หรือด้านหลังที่เจาะนำกราฟออกมา ภาวะนี้ก็เป็นภาวะที่พบได้ตามปกติเช่นกัน

ในด้านหน้า อาการคันจะเกิดได้จาก 2 ปัจจัย คือจากกลไกการซ่อมแซมผิวหนังของด้านหน้าจากการบาดเจ็บในขั้นตอนการเจาะรูผิวหนัง และจากกลไกการขึ้นของเส้นผมใหม่ที่พยายามจะยาวออกมาจากผิวหนัง ทั้งสองปัจจัยนี้ สามารถรักษาได้โดยการรับประทานยาแก้แพ้อากาศทั่วไป เนื่องจากยากลุ่มนี้มีฤทธิ์ลดการคันได้ด้วย

ผิวหนังเป็นหลุม ในช่วงผลัดผม

ลักษณะผิวหนังเป็นรู หรือเป็นหลุม มีสาเหตุมาจากกลไกที่คล้ายกับขนคุด คือเกิดจากเมื่อทำการเจาะรูบริเวณผิวหนัง และผมพยายามจะงอกขึ้นแต่ไม่สามารถขึ้นมาได้ และงอกม้วนกลับลงไป ในบางเคสอาจพบว่าเป็นตุ่มหนองคล้ายสิว กลไกทั้งหมดนี้อาจทำให้เกิดลักษณะคล้ายรูที่ผิวหนัง แต่อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้จะกลับมาเป็นปกติ เมื่อครบ 1 ปีครับ

สรุป

ทั้งสามภาวะ ผิวแดง ผิวคัน และเป็นหลุม สามารถพบได้ตามปกติในการปลูกผมทั่วไป ไม่จำเป็นต้องกังวลครับ หรือหากใครไม่แน่ใจว่าผิวหนังด้านหน้าของตัวเองปกติหรือไม่ สามารถส่งรูปมาให้ประเมินทางอินบ็อกซ์หรือเข้ามาปรึกษาที่คลินิกได้ครับ

เขียนบทความโดย

นายแพทย์ ปฐมภพ คุณกิตติ (หมอดิว)

Pathompob Khunkitti, MD.

อ่านบทความเพิ่มเติม

บทความน่ารู้