เชื่อว่าคงมีหลายๆท่านที่กำลังหาข้อมูลสำหรับการปลูกผมกันอยู่ใช่ไหมครับอาการที่พบได้บ่อย ๆ หลังการผ่าตัดปลูกผม รวบรวมจากการที่ลูกค้าสอบถามมามากที่สุดได้แก่
1.อาการชาบริเวณหนังศีรษะ
อาการนี้สามารถพบได้ 1-3 เดือนหลังทำการปลูกผมครับ เนื่องจากเส้นประสาทบริเวณผิวหนังถูกกระทบกระเทือนจากการผ่าตัด ซึ่งโดยปกติแล้วจะสามารถหายเองได้เป็นปกติในระยะเวลา 1-3 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละท่าน โดยปกติแล้วเส้นประสาทของเราจะสามารถงอกออกมาใหม่ได้เดือนละ “ประมาณ 1 นิ้ว“ และ จากงานวิจัยต่าง ๆ จะแนะนำให้ทานวิตามิน B เพื่อช่วยให้เส้นประสาทฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้นครับ
2.อาการผมร่วง Shock loss
นับว่าเป็นอาการปกติที่เจอได้ในเกือบทุกคนที่ปลูกผมเลยครับ โดยปกติแล้วผมจะร่วงหลังการปลูกประมาณ 1-2 สัปดาห์ และจะค่อยๆงอกขึ้นมาใหม่อย่างสมบูรณ์ในระยะเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปีหลังปลูกผมครับ
3.รูเจาะด้านหลังหนังศีรษะ
โดยปกติแล้วการปลูกผม FUE หรือ DHI จะเป็นการนำผมออกมาทีละเส้นจากบริเวณท้ายทอยด้านหลัง ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าหลังการผ่าตัด ศีรษะด้านหลังจะเห็นเป็นรูเจาะขนาดต่างๆกัน ตามความใหญ่ – เล็กของอุปกรณ์เจาะผมครับ ซึ่งรูเจาะเหล่านี้จะดูเล็กลงหรือหายไปเมื่อผมด้านหลังงอกขึ้นมาปิดบังบริเวณรอยแผลผ่าตัด
4.อาการคันที่หนังศีรษะ
อาการคันเป็นอีกอาการหนึ่งที่พบได้ค่อนข้างบ่อยหลังการปลูกผม เกิดจากการที่ร่างกายกำลังเกิดกระบวนการซ่อมแซมแผลขึ้นมา คล้ายๆกับแผลบริเวณอื่นของร่างกาย เมื่อแผลเริ่มหายจะเกิดอาการคันขึ้นครับ แนะนำว่าไม่ควรเกาบริเวณหนังศีรษะแรงๆเนื่องจากจะเป็นการทำลายรากผมได้ แนะนำเป็นการรับประทานยาแก้แพ้เพื่อช่วยบรรเทาอาการคัน เช่น Cetrizine หรือ loratadine แทนครับ
5.อาการบวมบริเวณหน้าผากและใบหน้า
อาการบวมส่วนใหญ่มักเกิดประมาณ 1 สัปดาห์แรกหลังปลูกผม ปกติแล้วก่อนการปลูกผมหมอจะทำการฉีดยาชาบริเวณหนังศีรษะค่อนข้างมากเพื่อทำการระงับอาการเจ็บปวด ซึ่งยาชาที่ฉีดโดยปกติแล้วร่างกายเราจะสามารถดูดซึมไปได้เอง แนะนำให้ทำการนอนหมอนสูง 45 องศา และทำการรัดที่บริเวณหน้าผากไว้ในช่วงแรกเพื่อป้องกันการบวมลงมาบริเวณใบหน้าครับ
บทความน่ารู้
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผม
นายแพทย์ ปฐมภพ คุณกิตติ (หมอดิว)